วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Jean-Marc Ayrault แห่งฝรั่งเศสเยือนไทย

“นายกฯ ฌอง-มาร์ก เอโรต์” แห่งฝรั่งเศส เยือนไทยฐานะแขกรัฐบาล  เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 พร้อมหารือข้อราชการ ต่อยอดความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ย้ำความสัมพันธ์ของสองประเทศ






  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ (4 ก.พ.) และ 5 ก.พ. นายฌอง-มาร์ก เอโรต์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฝรั่งเศส เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ตามคำเชิญของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรกในรอบ 23 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 6 เดือน น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการมาแล้ว และการมาเยือนไทยของนายกฯ ฝรั่งเศสตามคำเชิญของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ครั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ของสองประเทศที่ได้พพัฒนาสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งในตอนนี้นายกฯ ฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศสมาชิกอาซียน โดยก่อนหน้านี้ประมาณปลายปี 2555 นายกฯ ฝรั่งเศสได้เดินทางเยือนประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์มาแล้ว

       
       ทั้งนี้ วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 17.30 น. นายกฯ ฝรั่งเศสและคณะจะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ร่วมพิธีการต้อนรับอย่างเป็นทางการ และหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ และจะเป็นการต่อยอดการหารือหลังจากนายกรัฐมนตรีเคยไปเยือนฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ ซึ่งฝรั่งเศสให้ความสำคัญต่อเรื่องการขยายปริมาณการค้า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทย ความร่วมมือด้านการศึกษา ตลอดจนประเด็นระดับภูมิภาคและพหุพาคี
       
       พร้อมกันนี้หลังการหารือจะมีการลงนามความตกลง 5 ฉบับ โดย 4 ฉบับที่น่าสนใจ คือ 1. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ โดยกระทรวงกลาโหม 2. หนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อความร่วมมือด้านการศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการ 3. บันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือในการผลิตวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบ โดยกระทรวงสาธารณสุข 4. ความตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกับสถาบัน IUT เรื่องการพัฒนาหลักสูตร
       
       สำหรับฝรั่งเศสถือเป็น 1 ใน 5 ของประเทศมหาอำนาจทางการเมืองและการทหารของโลก เป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญทั้งในด้านวิทยากร เทคโนโลยี วัฒนธรรมและการศึกษา เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่มีบทบาทในการกำหนดทิศทางและนโยบายของสหภาพยุโรป และในปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฝรั่งเศสมีการยกระดับเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันแล้ว
       
       ขณะเดียวกัน ทุกวันนี้ฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในไทยสูงเป็นอันดับ 8 ของการลงทุนจากภูมิภาคยุโรป เช่นเดียวกับบริษัทของไทยได้เข้าไปลงทุนในฝรั่งเศสในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเล อุตสาหกรรมพลาสติก
       
       อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ ทางนายกฯ ฝรั่งเศสได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาด้วย เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พรวรราชบิดาแห่งอาณาจักรกัมพูชา แต่ทางนายกฯ ฝรั่งเศสไม่ต้องการให้ถูกฝ่ายไทยมองว่าฝรั่งเศสเข้าข้างกัมพูชาในกรณีประสาทพระวิหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประโยชน์และความรู้สึกของประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น